กรุงศรี คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.10-33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จับตาข้อมูลจ้างงานสหรัฐ ด้านปัจจัยในประเทศ ยังติดตามสถานการณ์ “โอไมครอน” ระบาดหลังจบเทศกาลปีใหม่

วันที่ 4 มกราคม 2565 กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ (4-7 ม.ค.) ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.10-33.50 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 33.34 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 33.33-33.58 บาท/ ดอลลาร์

ทั้งนี้ ในปี 2564 เงินบาทอ่อนค่ามากที่สุดในกลุ่มสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ของเอเชียที่อัตรา 11.1% จากการทรุดตัวของภาคท่องเที่ยวอย่างยาวนานทำให้ไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัด

เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ยกเว้นเงินเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางช่วงสิ้นปี ขณะที่ตลาดเปิดรับความเสี่ยงและมองข้ามการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ Omicron ทั่วโลก เนื่องจากสายพันธุ์ดังกล่าวมีแนวโน้มรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ และหลายประเทศไม่ได้ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเท่ากับระลอกก่อนหน้า

ทางด้านสหรัฐรายงานยอดขาดดุลการค้าพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ 9.78 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้นและยอดส่งออกลดลง อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 เงินยูโรและเงินเยนอ่อนค่าลง 7.0% และ 11.4% ตามลำดับ โดยเงินดอลลาร์ได้แรงหนุนซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้จากการปรับท่าทีอย่างมีนัยสำคัญของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อปูทางไปสู่การถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่สหรัฐเผชิญความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อทั้งจากการทะยานขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในกลุ่มอาหารและพลังงาน รวมถึงตลาดแรงงานที่เข้าสู่ภาวะตึงตัว ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 48,578 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 145,917 ล้านบาท

ทั้งนี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจกับรายงานการประชุมเฟดรอบล่าสุดและข้อมูลการจ้างงานเดือนธันวาคม 2564 ของสหรัฐเพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินในระยะถัดไป ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าเฟดจะยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ในไตรมาสปัจจุบันและขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง รวม 0.75% ในปี 2565 นี้ ขณะที่เฟดยังไม่ได้ระบุถึงแนวทางการลดสภาพคล่องส่วนเกินในระบบผ่านมาตรการ Quantitative Tightening ซึ่งกรุงศรีคาดว่าจะเป็นประเด็นสำคัญและจะสร้างความผันผวนให้กับกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายในปีนี้

สำหรับปัจจัยในประเทศ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดหลังเทศกาลปีใหม่และมาตรการควบคุมโรค รวมถึงแนวทางการกลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะข้างหน้า ทางด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานยอดดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพฤศจิกายน 2564 เกินดุล 0.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการพลิกกลับมาเกินดุลครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 อนึ่ง กรุงศรีมองว่าการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวยังคงขึ้นอยู่กับพัฒนาการด้านสาธารณสุขของโลกเป็นหลัก

By admin